ธรรมเทศนา โดยพระอาจารย์วิชัย กมฺมสุทโธ
สถานปฏิบัติธรรมป่าวิเวกสิกขาราม อ.พล จ.ขอนแก่น
วันเสาร์ที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๕๓
การไม่วิวาทกัน การสามัคคีกัน เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ นี้เป็นพุทธพจน์ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้
ทำไมพระพุทธองค์จึงตรัสเช่นนั้น เพราะการวิวาทกันเกิดจากทิฐิ ความเห็นที่ต่างกัน มีความถือมั่นในทิฐิ ไม่มีทิฐิสามัญตา เห็นว่า แม้แต่ทิฐินั้น ก็ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา
การถือมั่นในทิฐิเป็นการหลงในสมมติ เมื่อไม่หลงในสมมตินั้น จึงไม่วิวาทะ มีความเห็นเหมือนกันโดยธรรม จึงสามัคคีกัน
เหตุนั้นคำสอนนี้จึงมุ่งต่อพระนิพพาน
เมื่อพระสารีบุตรได้ฟังพระพุทธเจ้าสอนฑีฆนขะ เรื่องทิฐิ ๓ คือ คนในโลกนี้ มีทิฐิเป็น ๓ จำพวก
พวกที่ ๑ สิ่งทั้งหลายคู่ควรแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าชอบใจทั้งสิ้น
พวกที่ ๒ สิ่งทั้งหลายไม่คู่ควรแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ชอบใจทั้งสิ้น
พวกที่ ๓ สิ่งทั้งหลายที่คู่ควรแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าชอบใจ สิ่งที่ไม่คู่ควรแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ชอบใจ
เมื่อบุคคลใดถือมั่นในทิฐิพวกใดพวกหนึ่ง ย่อมขัดแย้งกับทิฐิอีก ๒ จำพวก
ผลแห่งการขัดแย้งย่อมเกิดวิวาทะกัน เมื่อเกิดวิวาทะกันย่อมเบียดเบียนกัน เมื่อเบียดเบียนกันย่อมก่อเวรซึ่งกันและกัน
เหตุนั้นผู้มีปัญญาเห็นเช่นนี้ ย่อมละทิฐิที่ตัวเองถืออยู่ และไม่ไปถือมั่นทิฐิอื่นด้วย
เมื่อพระสารีบุตรพิจารณาตาม จึงสำเร็จเป็นพระอรหันต์
เหตุนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัส ตัณหา ทิฐิ มานะ เป็นธรรมที่เนิ่นช้า ให้ละ พระองค์ไม่มี ตัณหา ทิฐิ มานะ
ข้อธรรม จากพระอาจารย์วิชัย กมฺมสุทโธ
สถานปฏิบัติธรรมป่าวิเวกสิกขาราม อ.พล จ.ขอนแก่น
วันเสาร์ที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๕๓
พระนิพพานไม่มีใครจะทำลายได้ พระนิพพานมีอยู่แล้ว ทั้งก่อนที่พระพุทธเจ้าจะมาตรัสรู้ และเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว ก็ยังมีอยู่
ศาสนาเจริญและเสื่อมที่ใจมนุษย์คน การสืบทอดพระศาสนา คือการประพฤติ ปฏิบัติให้เห็นธรรม บรรลุธรรมในใจตนเอง นั่นเอง ภายนอกเป็นสิ่งสมมติหมด เพียงแค่อาศัย ไม่ควรไปยินดียินร้าย เพราะสิ่งเหล่านั้น เกิดขึ้น แล้วก็ดับไป เป็นไปตามเหตุปัจจัย จึงไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา
ขอทุกท่านเจริญในธรรม