VCD “เทิดทูนบูชาคุณ 90 ปี พระหลวงตามหาบัว”

เพื่อสนทนาธรรม และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อความเป็นกัลยาณมิตร กัลยาณธรรมที่ดีต่อกัน

VCD “เทิดทูนบูชาคุณ 90 ปี พระหลวงตามหาบัว”

Postโดย wiweksikkaram.hi5 » Sat Jul 03, 2010 11:27 pm

คุณแม่จันดี โลหิตดี วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี
ผู้จัดทำ VCD “เทิดทูนบูชาคุณ 90 ปี พระหลวงตามหาบัว”
ชุดนี้ มี 5 ตอน (19 มิถุนายน 2545)

ตอนที่ 1

ธรรมเหนือโลก

หนึ่งเดียวในจักรวาล มนุษย์อาจค้นได้
แต่สิ่งที่เหนือจักรวาล ใคร…ละจะเป็นผู้ค้นพบ
โลกเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล
แต่…สิ่งที่อยู่เหนือโลก และจักรวาล คือ ธรรมชาติ
ซึ่งมีอยู่ เป็นอยู่ คู่กับโลกตลอดอนันตกาล
ธรรม ซึ่งเป็นของคู่กันกับโลกย่อมแยกกันไม่ออก
ดังนั้นโลกได้กำเนิดผู้กำเนิดผู้มีบุญบารมีที่จะค้นพบธรรมชาตินี้
โดยอาศัยหลักในการดำเนินคือทางเดิน
ซึ่งมีองค์ประกอบที่ทุกคนจะก้าวไปให้ถึงหลักธรรมชาตินี้
อันได้แก่ ละชั่ว ทำดีโดยอาศัยหนทางที่จะนำพาไปถึงได้
หลักธรรมชาตินี้ต้องอาศัยจิตเป็นผู้นำทาง
โดยมี ทาน ศีล ภาวนา
เป็นทางเดินเพื่อจะปูพื้น ขัดเกลา เปลี่ยนแปลงจิตเดิมของสัตว์โลก คือ สัตว์ทุกชนิด รวมทั้งมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความโลภ ความโกรธ ความหลง หลักการปฏิบัติเพื่อจะเข้าถึงธรรมชาตินี้คือ ทาน ศีล ภาวนา
ทาน คือ การเสียสละ มีเมตตา ไม่เห็นแก่ตัว ให้รักคนอื่นเสมือนรักตนเอง
ศีล คือ เจตนางดเว้นในการทำชั่วทางกายวาจาใจ
ภาวนา คือ การแสวงหาความสงบทางจิต เพื่อเข้าถึงธรรมชาติ



ตอน 2
ประวัติพระหลวงตามหาบัว

ภาคอีสานเป็นดินแดนที่แห้งแล้ง ขาดแคลน
แต่ภาคอีสานก็มีสิ่งทดแทน คือ หลวงตามหาบัว
ท่านได้ถือกำเนิดในดินแดนแห่งนี้ในสกุลโลหิตดี
เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พุทธศักราช 2456 ณ หมู่บ้านตาด จังหวัดอุดรธานี มีพี่น้อง 16 คน ท่านเป็นคนที่สอง ครอบครัวมีอาชีพทำนา ท่านมีนิสัยพูดจริงทำจริง รักษาคำสัตย์เสมอชีวิต เมื่ออายุ 21 ปี ท่านได้บวชทดแทนคุณพ่อแม่ ณ วัดโยธานิมิต จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พุทธศักราช 2477 โดยได้ฉายาว่า ญาณสัมปัญโน
เมื่อบวชเรียน ท่านได้ซาบซึ้งในพระธรรม จึงได้ปฏิบัตินั่งสมาธิภาวนาอยู่มิขาด จนสอบได้เปรียญ 3 ประโยค พร้อมนักธรรมชั้นเอก
จากนั้นได้มุ่งออกปฏิบัติธรรมในยุคนั้น พระหลวงปู่มั่น เป็นที่เลืองลือว่าเป็นผู้สอนด้านจิตภาวนา ท่านจึงได้มอบตัวเป็นศิษย์
พระหลวงตาได้ทำตามคำสอนของหลวงปู่มั่นที่ว่า
ธรรมมีจริง นิพพานมีจริง โลกไม่เที่ยง นิพพานเที่ยง
ด้วยความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยวแม้ว่า…จะลำบากเพียงใด
ท่านก็สูไม่มีถอย เป็นก็เป็น ตายก็ตาย
ในที่สุดความอุตสาหะ พากเพียร ฝึกฝนจิตของท่าน
ก็ตัดสินกันลงได้ระหว่างกิเลสกับธรรม จนหมดสงสัย
จากนั้นท่านจึงได้นำธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ออกเผยแพร่
โดยเน้นสงเคราะห์ทางด้านจิตใจ
ในขณะเดียวกัน ท่านได้ให้ความเมตตาสงเคราะห์โลก
ตั้งแต่พุทธศักราช 2499 เป็นต้นมา








ตอนที่ 3
อวกาศของจิต

กิเลส ดึงดูดใจให้ตกต่ำ
แต่ธรรม ดึงดูดจิตเข้าสู่ดินแดนอวกาศของจิต ของธรรม
ไม่มีอะไรเทียบค่ากับธรรมได้
เมื่อธรรมกับใจกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว
ความเมตตาย่อมให้ความร่มเย็นต่อโลก
ผู้ปฏิบัติจึงต้องยึดหลักเมตตา เสียสละ ให้อภัยซึ่งกันและกัน
ท่านสอนเราว่า
“การเสียสละ ให้ทาน แบ่งปันสงเคราะห์ซึ่งกันและกัน ถือเป็นน้ำใจอันยิ่งใหญ่ แม้จะตายไปแล้ว น้ำใจอันนั้นก็ไม่หมดไป”

กว่า 47 ปี ที่วัดป่าบ้านตาด ผู้คนได้นำจตุปัจจัยไทยทานมาถวายด้วยความศรัทธา เป็นจำนวนมาก ท่านได้นำไปสงเคราะห์โลกในด้านต่าง ๆ เช่น สร้างโรงพยาบาล สร้างโรงเรียน ซื้อเครื่องมือแพทย์ ช่วยเหลือสถานสงเคราะห์ และสนับสนุนด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ท่านกล่าวว่า “เงินวัดนี้ เงินเพื่อโลก เราไม่ได้เก็บสำหรับวัดนี้ ใครจะสร้างอะไรให้ เราไม่เอา ที่อยู่ พออยู่พอไป แต่ทางจงกรมให้เป็นเหวนั่นละ ธรรมเจริญ”
ท่านได้ย้ำกับพวกเราว่า “เวลามีชีวิตอยู่นี้ ท่านจะทำความดีให้โลกทั้งหลายได้เป็นคติตัวอย่าง
อันดีงาม และทำด้วยความเมตตาสงสารต่อสัตว์โลก”











ตอนที่ 4
พระหลวงตามหาบัวสงเคราะห์โลก

สภาพของวัดป่าบ้านตาดตั้งแต่เริ่มตั้งวัด เมื่อปี 2499 แม้เวลาผ่านไปยาวนาน แต่สภาพยังคงเดิม ไม่มีไฟฟ้า อยู่อย่างสมถะเรียบง่าย ผู้คนจำนวนมากได้นำจตุปัจจัยไทยทานมาถวายพระหลวงตา ซึ่งท่านได้นำมาสงเคราะห์โลกทั้งหมด โดยเฉพาะทางด้านจิตใจ
ท่านได้เทศน์โปรดพระ เณร ญาติโยม ตลอดแจกจ่ายหนังสือเทปธรรมะมาตั้งแต่ปี 2514 โดยไม่มีการซื้อขาย นับว่าเป็นงานที่มีคุณประโยชน์ต่อชาวโลก อันประมาณค่าไม่ได้…
”เราช่วยโลกมาตั้งแต่ปี 2499 รวม 47 ปี ถ้าว่าเป็นพันล้านขึ้นไป เราพอจะฟังได้บ้าง”
www.luangta.com (19 มิ.ย. 2545)

พระหลวงตามหาบัวได้ช่วยสงเคราะห์โลกนับตั้งแต่ ปี 2499 ถึง ปัจจุบัน( มิ.ย. 2545) ท่านได้ให้ความช่วยเหลือทั่วประเทศ ดังนี้
- โรงพยาบาล สถานพยาบาล และสถานีอนามัย ประมาณ 152 ล้านบาท
- โรงเรียน และหน่วยงานราชการต่าง ๆ ประมาณ 82 ล้านบาท
- วัดต่าง ๆ ไม่น้อยกว่า 500 แห่ง ประมาณ 296 ล้านบาท
- สถานสงเคราะห์เด็ก เด็กพิการ ด้อยโอกาส และผู้ยากไร้
ประมาณ 30 ล้านบาท
- สถานสงเคราะห์สัตว์ และสัตว์พิการต่าง ๆ ประมาณ 20 ล้านบาท
- นอกจากนี้ยังช่วยโรงพยาบาล 6 แห่ง และโรงเรียน 1 แห่ง สำหรับประเทศสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว ประมาณ 31 ล้านบาท
รวมเป็นเงินมากกว่า 600 ล้านบาท
(หกร้อยล้านบาท)
**แต่ที่หาข้อมูลไม่ได้ ยังมีอีกมากมาย

***พระหลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด ท่านช่วยสงเคราะห์โลก
ปี 2499 – 2552 นับเป็นเงินหมื่น ๆ ล้าน www.luangta.com







ตอนที่ 5
พระหลวงตามหาบัวช่วยชาติ

ปลายปีพุทธศักราช 2540 พระชรารูปหนึ่งอายุ 84 ปี ดำรงสมณเพศด้วยข้อวัตรอันเคร่งครัด จำพรรษาอยู่ที่กุฏิหลังน้อยกลางป่าเพียงลำพัง อาพาธ ถ่ายวันละ 7 – 8 ครั้ง จนต้องสร้างเมรุขึ้นไว้ที่หน้าวัด แต่เหตุใด…พระหลวงตารูปนี้จึงตายไม่ได้ เพราะในปีนั้นเองประชาชนคนไทยต้องประสบกับปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำอย่ารุนแรง ค่าเงินบาทตกต่ำ คนตกงาน ประเทศติดหนี้สิน พระหลวงตาจึงตัดสินใจว่า “หากสามารถกู้ชาติกู้แผ่นดินให้เกลับสู่ความร่มเย็น ให้เป็นที่ประดิษฐ์สถานพระพุทธศาสนาสืบไป…ขอให้ยาที่ฉัน ถูกกับโรค ที่กำลังกำเริบอยู่” นับว่าคนไทยโชคดีที่อาการอาพาธของท่านได้ทุเลาลง เมื่อท่านเริ่มแข็งแรงขึ้น ท่านจึงได้ประกาศเป็นผู้นำในการทำโครงการผ้าป่าช่วยชาติ เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2541 ขณะที่ท่านอายุได้ 85 ปี โดยออกเทศน์โปรดประชาชนชาวไทยทั่วประเทศรับบิณฑบาตทองคำ ดอลล่าร์ เข้าสู่คลังหลวง เพราะคลังหลวงคือหัวใจของชาติไทย
พระหลวงตาได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ขณะออกรับผ้าป่าชาติช่วย ท่านได้บอกกับทุกคนว่า “แม้เราประสบอุบัติเหตุ กระดูกแขนแตก พิกลพิการเช่นนี้ เรายังไม่รู้สึกห่วงตัวเอง ยิ่งกว่าชาติไทยของเรา
นี่คือ กิจของสงฆ์ สงฆ์ต้องช่วยชาติ ช่วยโลกดั่งพระพุทธเจ้าท่านว่า
มหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง”
“ในการช่วยชาติคราวนี้ เราเห็นประโยชน์ทางด้านจิตใจมากกว่าวัตถุ
ทุกข์ยากลำบากเพียงไหน ใกล้ ไกล เราไปทั้งนั้น
ประหนึ่งว่าเป็นเหมือนขอทาน อาภัพวาสนา เที่ยวขอทานประชาชน ถ้าพูดแบบโลก ๆ เขาพูดกันว่าอย่างนั้น ถ้าพูดอย่างธรรมแล้ว นี่คือ อำนาจแห่งความเมตตาธรรม อุ้มชาติบ้านเมืองของเรา” ทุกสิ่งที่พระหลวงตาได้พาปฏิบัตินั้น ทำให้พวกเราต้องย้อนคิดว่า พระชรารูปนี้ ท่านกำลังทำอะไร…?
ท่านทำเพื่อใคร…? ทำไมท่านจึงต้องลำบาก…? เหนื่อยยากถึงเพียงนี้…
แต่เมื่อได้ฟังธรรม จึงได้รู้ว่าท่านพาทำมหากุศลอันยิ่งใหญ่
เพื่อตอบแทนบูชาคุณแผ่นดินไทย
ให้คงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตลอดไป…
คุณแม่จันดี โลหิตดี วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี
ผู้จัดทำ VCD ชุดนี้ (19 มิถุนายน 2545)
เวลาทำสมาธิ

ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก

ให้รู้ลมหายใจเข้าออก

หายใจเข้าสั้นก็รู้

หายใจออกสั้นก็รู้

หายใจเข้ายาวก็รู้

หายใจออกยาวก็รู้

ไม่ต้องบังคับลมหายใจ

ตามรู้ลมหายใจเข้าออก

สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้

สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย

ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ

เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น

ทำอะไรก็ให้รู้เหตุปัจจัย

รู้ไม่ใช่เพื่อ ยินดี ยินร้าย รู้เพื่อให้ รู้เหตุปัจจัย

เหตุแห่งความเจริญ

เคารพ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

เคารพ สิกขา 3 ศีล สมาธิ ปัญญา

เคารพในความไม่ประมาท

เคารพในการปฎิสันฐาน

เคารพใน ศีล

เคารพใน สมาธิ

เคารพในกันและกัน

หลักตัดสิน ธรรมวินัย 8 ประการ

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด

เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้

เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส

เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย

เป็นไปเพื่อสันโดษ

เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ

เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร

เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย

ธรรมที่ควรเจริญ

สติ

สัมปัชชัญญะ

ศีล

สมาธิ

ปัญญา

วิมุตติ

วิมุตติญาณทัสสนะ

สัมมาทิฏฐิ เห็นชอบ

สัมมาสังกัปปะ ดำริชอบ

สัมมาวาจา พูดชอบ

สัมมาอาชีโว อาชีพชอบ

สัมมากัมมันโต การงานชอบ

สัมมาวายาโม ความเพียรชอบ

สัมมาสติ ระลึกชอบ

สัมมาสมาธิ ตั้งมั่นชอบ

สัมมาญาณะ ความรู้ชอบ

สัมมาวิมุตติ หลุดพ้นชอบ

สัมมาวิมุตติญาณทัสสนะ ความเห็นในการหลุดพ้นชอบ

สัมมาทิฏฐิ

คือ รู้ชัดซึ่ง เหตุแห่ง กุศล วิชชา เป็น เหตุ

รู้ชัดซึ่ง เหตุแห่ง อกุศล อวิชชา เป็น เหตุ

การบรรลุธรรมอาศัย สติ ปัญญา อุเบกขา เป็นมัทยัทธ์

รักษาสัจจะ เพิ่มพูลจาคะ ไม่ประมาทปัญญา ศึกษาสันติ

การปฎิบัติธรรม

คบสัตบุรุษ ฟังพระสัทธรรม อยู่ในประเทศเหมาะสม ตั้งสัจจะ เดินสัมมาทิฏฐิ เจริญความสงบ

ออกพิจารณาด้านปัญญา + พลังกุศล - บ่มอินทรีย์ นิพพิทา วิราคะ วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ

สติ - ศีล - สมาธิ - ปัญญา - วิมุตติ - วิมุตติญาณทัสสนะ

อัปปมาโณพุทโธ อานุภาพพระพุทธเจ้าไม่มีประมาณ

อัปปมาโณธัมโม อานุภาพพระธรรมไม่มีประมาณ

อัปปมาโณสังโฆ อานุภาพพระสงฆ์ไม่มีประมาณ

เรื่องของสมมติ อวิชชา ตัวตน ยึดตรงไหน หลงที่ไหน ผิดที่นั้น จุดต่อมแห่งภพชาติ

wiweksikkaram.hi5
 
จำนวนผู้ตอบ: 114
สมัครสมาชิก: Mon Mar 15, 2010 12:20 am
ที่อยู่: สุทธาวาสภูมิ

กลับไปหน้า ธรรมเพื่อชีวิต

ผู้ที่กำลัง online

ผู้ที่กำลังอ่าน forum นี้: สมาชิก ไม่มีสมาชิก และ ผู้เยี่ยมชม 3 คน

cron