ขอเชิญร่วมสร้างห้องเปลื้องทุกข์ 8 ห้อง และกุฏิพระ 5 หลัง
Posted: Sat Sep 03, 2011 7:22 pmพระอาจารย์วิชัยขอประกาศเชิญร่วมสร้างห้องเปลื้องทุกข์ (ห้องน้ำรวม 8 ห้อง) และกุฏิพระ 5 หลัง
"โดยหลักการที่วางไว้สำหรับที่พักสงฆ์ป่าวิเวกสิกขารามนั้น เมื่อเข้าประตูวัด ถนนที่ตรงเข้ามา ทางขวามือจะเป็นโซนของแม่ชี อุบาสิกา ทางซ้ายมือจะเป็นเขตพุทธาวาส มีเจดีย์ และวิหารพระพุทธเจ้าสิขี ต่อจากเขตพุทธาวาสเข้าไปจะเป็นเขตสังฆาวาส ซึ่งเป็นโซนของพระ เณร อุบาสก โดยโซนของแม่ชี อุบาสิกากับเขตสังฆาวาสซึ่งเป็นโซนของพระ เณร อุบาสก จะถูกกั้นกลางโดยเขตพุทธาวาสซึ่งเป็นศูนย์กลางที่ใช้ร่วมกันของทั้งพระ เณร อุบาสก แม่ชี อุบาสิกา เหตุผลที่วางแปลนอย่างนี้ เพื่อแยกแต่ละส่วนให้ชัดเจน แยกหญิงชายชัดเจน ซึ่งธรรมะจัดสรรไว้ เจดีย์นั้นอาจจะมีผู้มาสักการะจากที่ต่างๆ จะเข้าถึงง่าย ไม่ปะปนกับเขตชีเขตพระที่จะทำความเพียร จึงลดการรบกวนจากผู้ที่จะมาแค่เที่ยวชมหรือสักการะพระธาตุ เพื่อความวิเวกไม่พลุกพล่านนั่นเอง เป็นการจัดสิ่งก่อสร้างเพื่อเอื้อต่อการปฏิบัติธรรม เพื่อทรงไว้ซึ่งพระสัทธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และยังให้โอกาสต่อพุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน เป็นการจัดสรรทรัพยากรให้ได้ประโยชน์ทุกฝ่าย ด้วยเหตุนี้ เมื่อฝั่งชีเริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2551นั้น เริ่มใกล้เสร็จ ก็จึงมีการที่จะไปก่อสร้างทางฝั่งพระ โดยเริ่มสร้างห้องเปลื้องทุกข์(ห้องน้ำรวม8ห้อง)ก่อน เพื่อให้ทุกคนที่ไปทางนั้นได้มีที่ระบายทุกข์ใกล้ ไม่ว่าทุกข์หนัก(อุจจาระ)ทุกข์เบา(ปัสสาวะ) หรือทุกข์กายที่เกิดจากร้อน-สกปรก ก็ไปชำระอาบน้ำได้ และจะเริ่มทำกุฏิพระด้วย5หลัง เพื่อจะได้ย้ายพระไปอยู่ทางฝั่งนี้ กุฏิพระนั้นมีเจ้าภาพแล้ว 3 หลัง ส่วน 2 หลังและห้องเปลื้องทุกข์(ห้องน้ำรวม8ห้อง)ยังไม่มีเจ้าภาพ
ส่วนเรื่องเจ้าภาพนั้น จะเป็นคนเดียวทั้งหลังก็ได้หรือจะร่วมกันคนละเล็กละน้อยก็ได้ แล้วแต่ศรัทธาและกำลังของผู้มีจิตเป็นกุศล ปล่อยไปเหตุปัจจัยวิถีสภาวธรรมที่จะดำเนินไป
รูปเริ่มก่อสร้างห้องเปลื้องทุกข์ (ห้องน้ำรวม 8 ห้อง) ทางฝั่งพระวันที่ 9 ส.ค.54 เป็นการทำหน้าฝน ฝนตกถี่มาก เมื่อขุดหลุมเสร็จก็รีบเทปูนตีนช้าง และเทต่อม่อต่อเลย โดยใช้ท่อซีแพคเป็นแบบแทน เพราะจะทำเป็นขั้นตอนปกติ หรือรอให้ขุดเสร็จทุกหลุมค่อยเทปูนปัญหาจะตามมา คือน้ำใต้ดินซึมลงหลุมและดินถล่ม ทีนี้ทำไมต้องทำหน้าฝน ก็เนื่องจากช่างและคนงานเมื่อว่างจากการทำนา ก็จะไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ไปเลี้ยงครอบครัว เพราะทุกคนท้องมันหิว และยังเรื่องปัจจัย4อีก ไม่ว่าเรื่องของตนเองก็ยังมีเรื่องของลูกอีก ยังเรื่องค่าใช้จ่ายการศึกษาของลูกด้วย รายได้จากการทำนาอย่างเดียวเขาอยู่ไม่ได้ แล้ววัดก็ยังมีความจำเป็นต้องก่อสร้างอยู่ พระยังไม่มีที่อยู่เป็นสัดส่วน จึงเป็นประโยชน์ทั้ง2ฝ่าย และยังส่งเสริมคนที่ทำอาชีพสุจริต วัดต้องมีส่วนในการช่วยเหลือสังคม ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ไม่ว่าทางวัตถุธรรมหรือทางนามธรรม(คือธรรมะ) และยังเป็นอุบายให้คนใกล้วัด จะได้มีโอกาสสัมผัสธรรมะบ้าง ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านสอนให้พระทำประโยชน์ต่อมหาชนในการประกาศศาสนาครั้งแรก นี่คือเหตุผลทำไมต้องทำ ทำเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ก็ขออนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยที่ได้มีส่วนสร้างที่พักสงฆ์ ขอให้เจริญๆ"
"โดยหลักการที่วางไว้สำหรับที่พักสงฆ์ป่าวิเวกสิกขารามนั้น เมื่อเข้าประตูวัด ถนนที่ตรงเข้ามา ทางขวามือจะเป็นโซนของแม่ชี อุบาสิกา ทางซ้ายมือจะเป็นเขตพุทธาวาส มีเจดีย์ และวิหารพระพุทธเจ้าสิขี ต่อจากเขตพุทธาวาสเข้าไปจะเป็นเขตสังฆาวาส ซึ่งเป็นโซนของพระ เณร อุบาสก โดยโซนของแม่ชี อุบาสิกากับเขตสังฆาวาสซึ่งเป็นโซนของพระ เณร อุบาสก จะถูกกั้นกลางโดยเขตพุทธาวาสซึ่งเป็นศูนย์กลางที่ใช้ร่วมกันของทั้งพระ เณร อุบาสก แม่ชี อุบาสิกา เหตุผลที่วางแปลนอย่างนี้ เพื่อแยกแต่ละส่วนให้ชัดเจน แยกหญิงชายชัดเจน ซึ่งธรรมะจัดสรรไว้ เจดีย์นั้นอาจจะมีผู้มาสักการะจากที่ต่างๆ จะเข้าถึงง่าย ไม่ปะปนกับเขตชีเขตพระที่จะทำความเพียร จึงลดการรบกวนจากผู้ที่จะมาแค่เที่ยวชมหรือสักการะพระธาตุ เพื่อความวิเวกไม่พลุกพล่านนั่นเอง เป็นการจัดสิ่งก่อสร้างเพื่อเอื้อต่อการปฏิบัติธรรม เพื่อทรงไว้ซึ่งพระสัทธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และยังให้โอกาสต่อพุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน เป็นการจัดสรรทรัพยากรให้ได้ประโยชน์ทุกฝ่าย ด้วยเหตุนี้ เมื่อฝั่งชีเริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2551นั้น เริ่มใกล้เสร็จ ก็จึงมีการที่จะไปก่อสร้างทางฝั่งพระ โดยเริ่มสร้างห้องเปลื้องทุกข์(ห้องน้ำรวม8ห้อง)ก่อน เพื่อให้ทุกคนที่ไปทางนั้นได้มีที่ระบายทุกข์ใกล้ ไม่ว่าทุกข์หนัก(อุจจาระ)ทุกข์เบา(ปัสสาวะ) หรือทุกข์กายที่เกิดจากร้อน-สกปรก ก็ไปชำระอาบน้ำได้ และจะเริ่มทำกุฏิพระด้วย5หลัง เพื่อจะได้ย้ายพระไปอยู่ทางฝั่งนี้ กุฏิพระนั้นมีเจ้าภาพแล้ว 3 หลัง ส่วน 2 หลังและห้องเปลื้องทุกข์(ห้องน้ำรวม8ห้อง)ยังไม่มีเจ้าภาพ
ส่วนเรื่องเจ้าภาพนั้น จะเป็นคนเดียวทั้งหลังก็ได้หรือจะร่วมกันคนละเล็กละน้อยก็ได้ แล้วแต่ศรัทธาและกำลังของผู้มีจิตเป็นกุศล ปล่อยไปเหตุปัจจัยวิถีสภาวธรรมที่จะดำเนินไป
รูปเริ่มก่อสร้างห้องเปลื้องทุกข์ (ห้องน้ำรวม 8 ห้อง) ทางฝั่งพระวันที่ 9 ส.ค.54 เป็นการทำหน้าฝน ฝนตกถี่มาก เมื่อขุดหลุมเสร็จก็รีบเทปูนตีนช้าง และเทต่อม่อต่อเลย โดยใช้ท่อซีแพคเป็นแบบแทน เพราะจะทำเป็นขั้นตอนปกติ หรือรอให้ขุดเสร็จทุกหลุมค่อยเทปูนปัญหาจะตามมา คือน้ำใต้ดินซึมลงหลุมและดินถล่ม ทีนี้ทำไมต้องทำหน้าฝน ก็เนื่องจากช่างและคนงานเมื่อว่างจากการทำนา ก็จะไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ไปเลี้ยงครอบครัว เพราะทุกคนท้องมันหิว และยังเรื่องปัจจัย4อีก ไม่ว่าเรื่องของตนเองก็ยังมีเรื่องของลูกอีก ยังเรื่องค่าใช้จ่ายการศึกษาของลูกด้วย รายได้จากการทำนาอย่างเดียวเขาอยู่ไม่ได้ แล้ววัดก็ยังมีความจำเป็นต้องก่อสร้างอยู่ พระยังไม่มีที่อยู่เป็นสัดส่วน จึงเป็นประโยชน์ทั้ง2ฝ่าย และยังส่งเสริมคนที่ทำอาชีพสุจริต วัดต้องมีส่วนในการช่วยเหลือสังคม ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ไม่ว่าทางวัตถุธรรมหรือทางนามธรรม(คือธรรมะ) และยังเป็นอุบายให้คนใกล้วัด จะได้มีโอกาสสัมผัสธรรมะบ้าง ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านสอนให้พระทำประโยชน์ต่อมหาชนในการประกาศศาสนาครั้งแรก นี่คือเหตุผลทำไมต้องทำ ทำเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ก็ขออนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยที่ได้มีส่วนสร้างที่พักสงฆ์ ขอให้เจริญๆ"
