กฐินวัดป่าวิเวกสิกขาราม และ การสร้างวิหารพระพุทธเจ้าสิขี

แจ้งข่าวงานบุญ งานกุศล ไม่สร้างไม่ได้แล้ว

กฐินวัดป่าวิเวกสิกขาราม และ การสร้างวิหารพระพุทธเจ้าสิขี

Postโดย ผู้เขียน » Tue Sep 28, 2010 4:07 pm

Image

ขอเชิญร่วมถวายกฐินเป็นพุทธบูชา เพื่อสร้างวิหารสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสิขี

ณ สถานปฏิบัติธรรมป่าวิเวกสิกขาราม อ.พล จ.ขอนแก่น (นับเป็นกฐินแรก ตั้งแต่ก่อตั้งวัดมา 3 ปี)

ในวันอาิทิตย์ที่ ๗ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๓ เวลา ๑๑.๐๐ น.

เนื่องด้วยได้มีผู้ถวายพระพุทธรูปหยกขาว ซึ่งเป็นองค์แทนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสิขี หน้าตัก ๔๗ นิ้ว ซึ่งได้ประดิษฐานไว้ในเต๊นท์ชั่วคราว ทางสถานปฏิบัติธรรมฯได้พิจารณาแล้ว เห็นสมควรสร้างวิหารไว้ประดิษฐานองค์พระพุทธรูปดังกล่าว โดยมีบ่อเก็บน้ำฝนอยู่ใต้วิหารด้วย เพื่อเก็บกักน้ำฝนไม่ให้ไหลทิ้ง และไว้ใช้ในช่วงฤดูร้อน ซึ่งเป็นช่วงที่มีัปัญหาภัยแล้ง ส่วนวิหารนั้น ไว้ใช้ทำกิจของสงฆ์และปฏิบัติธรรม ขนาดวิหารและบ่อน้ำ กว้าง ๘ เมตร ยาว ๑๒ เมตร จึงขอเชิญพุทธบริษัททุกท่านร่วมเป็นเจ้าภาพกฐินในครั้งนี้

ขออานุภาพพระรัตนตรัย พุทธานุภาพของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสิขี และบุญกุศลที่ท่านไ้ด้ทำในครั้งนี้ จงเป็นเหตุปัจจัยให้ท่านเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม พ้นจากกองทุกข์ทั้งปวงเทอญ

หมายเหตุ

๑. สำหรับท่านที่ไปร่วมงานไม่ได้ หากต้องการสมทบปัจจัย สามารถสมทบได้ที่หมายเลขบัญชีของพระอาจารย์วิชัย มี ๒ บัญชี คือ

1. ชื่อบัญชี พระวิชัย ศิริผลหลาย บัญชีออมทรัพย์ หมายเลข 167-2-40703-2 ธ.กสิกรไทย สาขาเมืองพล ขอนแก่น

2. ชื่อบัญชี พระวิชัย ศิริผลหลาย บัญชีออมทรัพย์ หมายเลข 792-2-13143-4 ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาเมืองพล ขอนแก่น

หากต้องการกราบเรียนให้พระอาจารย์ทราบ สามารถโทรศัพท์โดยตรงได้ที่หมายเลขของพระอาจารย์วิชัย คือ 085 808 2851 และ 089 094 6031 และหมายเลขโทรศัพท์ของแม่ชีรุ่ง ที่ 084 603 0946


๒. ท่านใดต้องการเดินทางจากกรุงเทพฯ มีรถตู้ที่ทางคณะศิษย์จัดขึ้น โดยออกเดินทางจากสถานีรถไฟดอนเมือง ในวันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2553 เวลา 09.30 น. ถึงสถานปฏิบัติธรรมในเวลาบ่าย
และขากลับ เิดินทางกลับจากสถานปฏิบัติธรรมในวันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2553 ในเวลาไม่เกินเที่ยงวัน ถึงกรุงเทพฯในช่วงเย็น
ท่านผู้ใดสนใจจะร่วมเดินทางโดยรถตู้ กรุณาติดต่อสำรองที่นั่งที่คุณเฉลิมศักดิ์ (บิ๊ก) ที่หมายเลขโทรศัพท์ 089 688 8999 หรือที่ email: chalermsakt@gmail.com ครับ
"ดูก่อน ทีฆนขะ มนุษย์เรานี้ บุคคลใดได้รับความสุข ก็จะลืมความทุกข์ชั่วขณะ บุคคลใดได้รับความทุกข์ ก็หาความสุขขณะนั้นไม่พบ คนส่วนมาก เมื่อมีทุกข์ มักคิดว่าทุกข์นั้นเป็นสิ่งเที่ยงแท้ เมื่อมีสุข ก็สำคัญว่าสุขนั้นจะอยู่กับเราตลอดไป หาคิดไม่ ว่าเป็นเสมือนการเห็นดวงจันทร์ในขันน้ำ มิอาจคว้าดวงจันทร์นั้นได้ คว้าได้แต่ขันเท่านั้นเอง สุขและทุกข์จึงเป็นของไม่เที่ยง เมื่อเห็นดังนี้แล้ว ผู้มีสติก็ย่อมเบื่อหน่ายทั้งสุขและทุกข์ ย่อมหลุดพ้นจากความยึดมั่นถือมั่น ไม่วิวาททุ่มเถียงกับผู้ใด แม้คำพูดนั้นจะระคายหู ก็ให้มีสติรู้ ว่าเป็นเพียงแค่คำพูดเท่านั้น"(พุทธพจน์)
ผู้เขียน
 
จำนวนผู้ตอบ: 77
สมัครสมาชิก: Sun Mar 14, 2010 12:23 pm
ที่อยู่: 4 Gunnamatta Place, Kelmscott, Western Australia, Australia, 6111

Re: กฐินแรก วัดป่าวิเวกสิกขาราม

Postโดย nurse2510 » Wed Oct 27, 2010 10:53 am

วันที่ 21 ตุลาคม 2553 เป็นวันพยาบาลซึ่งหลังจากทำพิธีเสร็จได้นิมนต์พระอาจารย์วิชัยได้เมตตาเทศนาธรรมให้กับพยาบาลผู้เข้าร่วงานกันมากมาย พร้อมนี้ลูกศิษย์เรื่อยๆมาเรียงๆอย่างคุณสิริมา และคุณนันท์ชญา ก็ได้ช่วยเป็นกำลังบุญเสี้ยวหนึ่งในการช่วยพระอาจารย์แจกหนังสือ+CDธรรมะ และได้ร่วมบุญกับพระอาจารย์กันถ้วนหน้า เป็นที่ปีติยินดียิ่งนัก ซึ่งในช่วงนั้นหมูอ้วนลูกศิษย์ที่มากับคณะพระอาจารย์วิชัยได้ถ่ายภาพปรากฎเป็นรังสีของเทวดามาร่วมฟังธรมที่หอประชุมวิทยาลัยศรีมหาสารคามด้วยค่ะ ส่วนช่วงบ่ายก็ได้นิมนต์พระอาจารย์วิชัยมาแสดงธรรมที่ห้องมันเภา โรงพยาบาลมหาสารคาม พร้อมทั้งเป็นโอกาสดีให้พระอาจารย์ได้รำลึกความหลังกับเพื่อนแพทย์ด้วยค่ะ

สิริมา(nurse2510@gmail.com)
nurse2510
 
จำนวนผู้ตอบ: 5
สมัครสมาชิก: Wed Oct 27, 2010 10:37 am

Re: กฐินแรก วัดป่าวิเวกสิกขาราม

Postโดย นิรทุกข์ » Tue Nov 09, 2010 3:17 am

สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนายอดกฐินด้วยครับ

มีใครมีรูปในงานมาแบ่งกันชมบ้างไหมครับ
นิรทุกข์
 
จำนวนผู้ตอบ: 558
สมัครสมาชิก: Sat Mar 13, 2010 7:46 pm

Re: กฐินแรก วัดป่าวิเวกสิกขาราม

Postโดย ศิษย์พระอาจารย์ » Wed Nov 10, 2010 5:01 pm

อนุโมทนา กับทุกท่านที่มีส่วนร่วมในกองกฐินครั้งนี้ เห็นยอดเงินแล้ว สาธุ..สาธุ
ศิษย์พระอาจารย์
 
จำนวนผู้ตอบ: 27
สมัครสมาชิก: Fri Apr 09, 2010 12:26 pm

Re: กฐินแรก วัดป่าวิเวกสิกขาราม

Postโดย ผู้เขียน » Sat Nov 13, 2010 4:59 pm

รูปจากงานกฐินของวัดป่าวิเวกสิกขาราม ครับ

Image
ชาวบ้านใน อ.พล ตั้งกองกฐิน(ขบวนแห่)ตั้งแต่ข้างนอกวัด

Image
รอรับขบวนแห่

Image
ขบวนเริ่มเคลื่อนเข้ามาในเขตวัด

Image
ตั้งกองกฐินในศาลาพลานุภาพ ในงานนี้ มีทั้งประชาชนในเขต อ.พล และเพื่อนๆและพี่น้อง
จากลานธรรมเก่า และญาติทางธรรมท่านใหม่ๆมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

Image

Image
พิธีถวายผ้ากฐิน

Image
สรุปยอดปัจจัยที่ได้ในงานกฐินในคราวนี้คือ 2 ล้านบาทและเศษอีกในหลักหมื่นบาท
ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ร่วมกันเสียสละกำลังกายช่วยเตรียมงาน กำลังใจขัดเกลากิเลสตัณหา
และกำลังทรัพย์เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาถวายแด่พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์สาวก
ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบด้วยครับ


Image
พระพุทธรูปองค์แทนสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสิขี ที่จะสร้างวิหารครอบองค์พระไว้
(โดยใช้ปัจจัยที่ได้จากกฐินในครั้งนี้) ขออานุภาพแห่งองค์พระพุทธเจ้าสิขีและพระพุทธเจ้า
ทุกพระองค์ จงสนับสนุนส่งเสริมให้ทุกท่านได้มีกำลังกายกำลังใจปฏิบัติธรรม มีดวงตาเห็นธรรม
เพื่อพ้นจากกองทุกข์ทั้งสิ้น ในปัจจุบันชาตินี้เทอญ
ผู้เขียน
 
จำนวนผู้ตอบ: 77
สมัครสมาชิก: Sun Mar 14, 2010 12:23 pm
ที่อยู่: 4 Gunnamatta Place, Kelmscott, Western Australia, Australia, 6111

Re: กฐินแรก วัดป่าวิเวกสิกขาราม

Postโดย ผู้เขียน » Sat Nov 13, 2010 5:15 pm

Image
คืนวันเสาร์ที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ เป็นวันพระ(วันรุ่งขึ้นเป็นวันถวายกฐิน)
พระอาจารย์ให้สวดทำวัตรเย็นและสวดบูชาพระพุทธเจ้าทั้ง ๗ พระองค์ ที่บริเวณรอบ
กองดินที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าวิปัสสีและพระพุทธเจ้ากกุสันโธ
หมายเหตุ: รูปถ่ายเหล่านี้ ถ่ายตามปกติ ไม่ได้ตกแต่ง ไม่ได้ถ่ายอย่างเตรียมการล่วงหน้า
ขอทุกท่านจงทำใจให้เป็นกลางด้วยครับ


Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image
เมื่อทำวัตรสวดมนต์เสร็จ

Image
ผู้เขียน
 
จำนวนผู้ตอบ: 77
สมัครสมาชิก: Sun Mar 14, 2010 12:23 pm
ที่อยู่: 4 Gunnamatta Place, Kelmscott, Western Australia, Australia, 6111

Re: กฐินแรก วัดป่าวิเวกสิกขาราม

Postโดย ผู้เขียน » Sat Nov 13, 2010 5:22 pm

Image

Image

Image

Image
ผู้เขียน
 
จำนวนผู้ตอบ: 77
สมัครสมาชิก: Sun Mar 14, 2010 12:23 pm
ที่อยู่: 4 Gunnamatta Place, Kelmscott, Western Australia, Australia, 6111

Re: กฐินแรก วัดป่าวิเวกสิกขาราม

Postโดย slungling » Sun Nov 14, 2010 8:10 am

สาธุ สาธุ สาธุ

อนุโมทนากับทุกท่านค่ะ
slungling
 
จำนวนผู้ตอบ: 18
สมัครสมาชิก: Wed Apr 07, 2010 6:19 am

Re: กฐินแรก วัดป่าวิเวกสิกขาราม

Postโดย วิเวก » Mon Nov 15, 2010 3:12 am

สาธุ อนุโมทนาบุญครับ
บางช่วงจากพระธรรมเทศนา โดยพระอาจารย์วิชัย กมฺมสุทโธ
เรื่อง ทำไมทิฏฐิเป็นธรรมที่เนิ่นช้า

อาหารบิณฑบาตฉันก็แก้หมดเหมือนกัน ฉันเพิ่มเติม ตัดส่วนบางส่วนเพิ่มเติม เพื่ออะไร เพื่อเอาสัจจธรรมออกมาพูด แล้วให้ไปขบคิดดูสิ สักวันหนึ่งคำพูดเหล่านี้เขาอาจจะได้ฉุกคิด ไม่ว่าพระชีหรือฆราวาสที่ได้ยินได้ฟัง ถ้าเขาได้ฉุกคิด วันหนึ่งเขาจะรู้ถึงคุณค่ามหาศาลของอาหารบิณฑบาตที่ฉันพาพูด จะรู้ถึงคุณค่ามหาศาลสิ่งที่ฉันเอาออกมา เพราะมันเป็นหญ้าปากคอก มันเป็นส่วนที่ดำเนินเข้าไปสู่ความเป็นอนัตตานั่นเอง เอ้า ก็ขอยุติแต่เพียงเท่านี้ ยะถา วาริวะหาฯ.


บทพิจารณาอาหาร

อาหารบิณฑบาต ที่ได้มาในวันนี้ ได้มาด้วยอานุภาพ คุณแห่งพระพุทธเจ้า ได้มาด้วยอานุภาพ คุณแห่งพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ได้มาด้วยอานุภาพ คุณแห่งพระอริยสงฆเจ้า ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาก่อน

อาหารนี้ประกอบด้วยธาตุ๔ ดินน้ำไฟลม เป็นของปฏิกูล ไม่เที่ยง เกิดตามเหตุปัจจัย ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง

กายนี้ประกอบด้วยธาตุ๔ ดินน้ำไฟลม เป็นของไม่สวยงาม เกิดตามเหตุปัจจัย ต้องแก่เจ็บตายไป ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา

การฉันอาหารนี้ เพียงแค่อาศัย เพื่อดับความหิว ล้วนแล้วแต่เรื่องเหตุปัจจัย เรื่องของธาตุ
วิเวก
 
จำนวนผู้ตอบ: 37
สมัครสมาชิก: Fri Mar 19, 2010 12:14 am

Re: กฐินแรก วัดป่าวิเวกสิกขาราม

Postโดย กัปตัน » Fri Nov 19, 2010 1:48 am

สาธุครับ
กัปตัน
 
จำนวนผู้ตอบ: 36
สมัครสมาชิก: Thu Apr 08, 2010 1:44 am

Re: กฐินแรก วัดป่าวิเวกสิกขาราม

Postโดย ผู้เขียน » Sat Jan 15, 2011 7:38 am

ความคืบหน้า การก่อสร้างวิหารพระพุทธเจ้าสิขี โดยใช้ปัจจัยที่ได้จากงานกฐินแรกที่จัดใน
วันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา (ภาพเหล่านี้ ถ่ายในช่วงวันปีใหม่ที่ผ่านมาครับ)


Image
เริ่มงานลงฐานราก วิหารกว้าง 10 เมตร ยาว 16 เมตร ลึก 2.5 เมตร เสาทั้งหมด 20 ต้น
สามารถเก็บกักน้ำได้ 400,000 ลิตร



Image


Image


Image


Image


Image
"ดูก่อน ทีฆนขะ มนุษย์เรานี้ บุคคลใดได้รับความสุข ก็จะลืมความทุกข์ชั่วขณะ บุคคลใดได้รับความทุกข์ ก็หาความสุขขณะนั้นไม่พบ คนส่วนมาก เมื่อมีทุกข์ มักคิดว่าทุกข์นั้นเป็นสิ่งเที่ยงแท้ เมื่อมีสุข ก็สำคัญว่าสุขนั้นจะอยู่กับเราตลอดไป หาคิดไม่ ว่าเป็นเสมือนการเห็นดวงจันทร์ในขันน้ำ มิอาจคว้าดวงจันทร์นั้นได้ คว้าได้แต่ขันเท่านั้นเอง สุขและทุกข์จึงเป็นของไม่เที่ยง เมื่อเห็นดังนี้แล้ว ผู้มีสติก็ย่อมเบื่อหน่ายทั้งสุขและทุกข์ ย่อมหลุดพ้นจากความยึดมั่นถือมั่น ไม่วิวาททุ่มเถียงกับผู้ใด แม้คำพูดนั้นจะระคายหู ก็ให้มีสติรู้ ว่าเป็นเพียงแค่คำพูดเท่านั้น"(พุทธพจน์)
ผู้เขียน
 
จำนวนผู้ตอบ: 77
สมัครสมาชิก: Sun Mar 14, 2010 12:23 pm
ที่อยู่: 4 Gunnamatta Place, Kelmscott, Western Australia, Australia, 6111

Re: กฐินแรก วัดป่าวิเวกสิกขาราม

Postโดย wiweksikkaram.hi5 » Sun Jan 16, 2011 9:32 pm

สาธุครับ

เดี๋ยวจะนำรูปมาลงกันต่อไปนะครับ

โดยคณะเด็กวัด อิอิ
เวลาทำสมาธิ

ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก

ให้รู้ลมหายใจเข้าออก

หายใจเข้าสั้นก็รู้

หายใจออกสั้นก็รู้

หายใจเข้ายาวก็รู้

หายใจออกยาวก็รู้

ไม่ต้องบังคับลมหายใจ

ตามรู้ลมหายใจเข้าออก

สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้

สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย

ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ

เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น

ทำอะไรก็ให้รู้เหตุปัจจัย

รู้ไม่ใช่เพื่อ ยินดี ยินร้าย รู้เพื่อให้ รู้เหตุปัจจัย

เหตุแห่งความเจริญ

เคารพ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

เคารพ สิกขา 3 ศีล สมาธิ ปัญญา

เคารพในความไม่ประมาท

เคารพในการปฎิสันฐาน

เคารพใน ศีล

เคารพใน สมาธิ

เคารพในกันและกัน

หลักตัดสิน ธรรมวินัย 8 ประการ

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด

เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้

เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส

เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย

เป็นไปเพื่อสันโดษ

เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ

เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร

เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย

ธรรมที่ควรเจริญ

สติ

สัมปัชชัญญะ

ศีล

สมาธิ

ปัญญา

วิมุตติ

วิมุตติญาณทัสสนะ

สัมมาทิฏฐิ เห็นชอบ

สัมมาสังกัปปะ ดำริชอบ

สัมมาวาจา พูดชอบ

สัมมาอาชีโว อาชีพชอบ

สัมมากัมมันโต การงานชอบ

สัมมาวายาโม ความเพียรชอบ

สัมมาสติ ระลึกชอบ

สัมมาสมาธิ ตั้งมั่นชอบ

สัมมาญาณะ ความรู้ชอบ

สัมมาวิมุตติ หลุดพ้นชอบ

สัมมาวิมุตติญาณทัสสนะ ความเห็นในการหลุดพ้นชอบ

สัมมาทิฏฐิ

คือ รู้ชัดซึ่ง เหตุแห่ง กุศล วิชชา เป็น เหตุ

รู้ชัดซึ่ง เหตุแห่ง อกุศล อวิชชา เป็น เหตุ

การบรรลุธรรมอาศัย สติ ปัญญา อุเบกขา เป็นมัทยัทธ์

รักษาสัจจะ เพิ่มพูลจาคะ ไม่ประมาทปัญญา ศึกษาสันติ

การปฎิบัติธรรม

คบสัตบุรุษ ฟังพระสัทธรรม อยู่ในประเทศเหมาะสม ตั้งสัจจะ เดินสัมมาทิฏฐิ เจริญความสงบ

ออกพิจารณาด้านปัญญา + พลังกุศล - บ่มอินทรีย์ นิพพิทา วิราคะ วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ

สติ - ศีล - สมาธิ - ปัญญา - วิมุตติ - วิมุตติญาณทัสสนะ

อัปปมาโณพุทโธ อานุภาพพระพุทธเจ้าไม่มีประมาณ

อัปปมาโณธัมโม อานุภาพพระธรรมไม่มีประมาณ

อัปปมาโณสังโฆ อานุภาพพระสงฆ์ไม่มีประมาณ

เรื่องของสมมติ อวิชชา ตัวตน ยึดตรงไหน หลงที่ไหน ผิดที่นั้น จุดต่อมแห่งภพชาติ

wiweksikkaram.hi5
 
จำนวนผู้ตอบ: 114
สมัครสมาชิก: Mon Mar 15, 2010 12:20 am
ที่อยู่: สุทธาวาสภูมิ

Re: กฐินแรก วัดป่าวิเวกสิกขาราม

Postโดย aor » Sun Jan 16, 2011 10:50 pm

รายงานข่าวต่อค่ะ

ภาพความคืบหน้าการก่อสร้างวิหารพระพุทธเจ้าสิขี ถ่ายเมื่อวันที่ 4 มกราคมค่ะ

Image

Image

Image

Image

Image
Last edited by aor on Fri Jan 21, 2011 11:28 pm, edited 1 time in total.
aor
 
จำนวนผู้ตอบ: 62
สมัครสมาชิก: Wed Apr 21, 2010 1:30 pm

Re: กฐินแรก วัดป่าวิเวกสิกขาราม

Postโดย aor » Sun Jan 16, 2011 11:40 pm

ภาพล่าสุดจากวัดค่ะ ถ่ายวันที่ 16 มกราคม มีการผูกเหล็ก ขึ้นโครงแล้ว แต่เหยี่ยวข่าวรายนี้ไม่ค่อยรู้จักขั้นตอน เลยอธิบายไม่เป็น ขออภัยด้วยค่ะ

Image

Image

Image

Image

Image
aor
 
จำนวนผู้ตอบ: 62
สมัครสมาชิก: Wed Apr 21, 2010 1:30 pm

Re: กฐินแรก วัดป่าวิเวกสิกขาราม

Postโดย ผู้เขียน » Fri Jan 21, 2011 6:35 pm

รายงานภาพความคืบหน้าการก่อสร้างวิหารพระพุทธเจ้าสิขี

Image
จุฑาทิพย์ Backhoe มาขุดให้ฟรี (๒๙ ธันวาคม ๕๓)


Image
(๒๙ ธันวาคม ๕๓)


Image
(๒๙ ธันวาคม ๕๓)


Image
ผู้ปฏิบัติธรรมช่วยกันแต่งบ่อและขุดตีนเสาทำฐานราก (๓๑ ธันวาคม ๕๓)


Image
(๓๑ ธันวาคม ๕๓)


Image
(๓๑ ธันวาคม ๕๓)


Image
(๓๑ ธันวาคม ๕๓)


Image
(๓๑ ธันวาคม ๕๓)


Image
(๓๑ ธันวาคม ๕๓)


Image
ผู้ปฏิบัติธรรมช่วยกันแต่งบ่อและขุดตีนเสาทำฐานราก (๔ มกราคม ๕๔)
"ดูก่อน ทีฆนขะ มนุษย์เรานี้ บุคคลใดได้รับความสุข ก็จะลืมความทุกข์ชั่วขณะ บุคคลใดได้รับความทุกข์ ก็หาความสุขขณะนั้นไม่พบ คนส่วนมาก เมื่อมีทุกข์ มักคิดว่าทุกข์นั้นเป็นสิ่งเที่ยงแท้ เมื่อมีสุข ก็สำคัญว่าสุขนั้นจะอยู่กับเราตลอดไป หาคิดไม่ ว่าเป็นเสมือนการเห็นดวงจันทร์ในขันน้ำ มิอาจคว้าดวงจันทร์นั้นได้ คว้าได้แต่ขันเท่านั้นเอง สุขและทุกข์จึงเป็นของไม่เที่ยง เมื่อเห็นดังนี้แล้ว ผู้มีสติก็ย่อมเบื่อหน่ายทั้งสุขและทุกข์ ย่อมหลุดพ้นจากความยึดมั่นถือมั่น ไม่วิวาททุ่มเถียงกับผู้ใด แม้คำพูดนั้นจะระคายหู ก็ให้มีสติรู้ ว่าเป็นเพียงแค่คำพูดเท่านั้น"(พุทธพจน์)
ผู้เขียน
 
จำนวนผู้ตอบ: 77
สมัครสมาชิก: Sun Mar 14, 2010 12:23 pm
ที่อยู่: 4 Gunnamatta Place, Kelmscott, Western Australia, Australia, 6111

Re: กฐินแรก วัดป่าวิเวกสิกขาราม

Postโดย ผู้เขียน » Fri Jan 21, 2011 6:45 pm

Image
คณะผู้ปฏิบัติธรรมบางส่วนและพนักงานบริษัท วีเคการหล่อและการกลึงจำกัด(30 คน)
ได้ช่วยกันเทปูนตีนช้างฐานเสาและเทลีนรองการผูกเหล็กบ่อ (๙ มกราคม ๕๔)



Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image
"ดูก่อน ทีฆนขะ มนุษย์เรานี้ บุคคลใดได้รับความสุข ก็จะลืมความทุกข์ชั่วขณะ บุคคลใดได้รับความทุกข์ ก็หาความสุขขณะนั้นไม่พบ คนส่วนมาก เมื่อมีทุกข์ มักคิดว่าทุกข์นั้นเป็นสิ่งเที่ยงแท้ เมื่อมีสุข ก็สำคัญว่าสุขนั้นจะอยู่กับเราตลอดไป หาคิดไม่ ว่าเป็นเสมือนการเห็นดวงจันทร์ในขันน้ำ มิอาจคว้าดวงจันทร์นั้นได้ คว้าได้แต่ขันเท่านั้นเอง สุขและทุกข์จึงเป็นของไม่เที่ยง เมื่อเห็นดังนี้แล้ว ผู้มีสติก็ย่อมเบื่อหน่ายทั้งสุขและทุกข์ ย่อมหลุดพ้นจากความยึดมั่นถือมั่น ไม่วิวาททุ่มเถียงกับผู้ใด แม้คำพูดนั้นจะระคายหู ก็ให้มีสติรู้ ว่าเป็นเพียงแค่คำพูดเท่านั้น"(พุทธพจน์)
ผู้เขียน
 
จำนวนผู้ตอบ: 77
สมัครสมาชิก: Sun Mar 14, 2010 12:23 pm
ที่อยู่: 4 Gunnamatta Place, Kelmscott, Western Australia, Australia, 6111

Re: กฐินแรก วัดป่าวิเวกสิกขาราม

Postโดย ผู้เขียน » Fri Jan 21, 2011 6:55 pm

Image
ผูกเหล็กบ่อใต้วิหาร (๑๕ มกราคม ๕๔)


Image
(๑๕ มกราคม ๕๔)


Image
(๑๕ มกราคม ๕๔)


Image
(๑๕ มกราคม ๕๔)


Image
(๑๕ มกราคม ๕๔)


Image
ซีแพ็คมาเทคอนกรีตกันซึม 44 คิวเป็นพื้นบ่อน้ำ (๑๗ มกราคม ๕๔)


Image
(๑๗ มกราคม ๕๔)


Image
(๑๗ มกราคม ๕๔)


Image
(๑๗ มกราคม ๕๔)


Image
เครื่องโม่ปูนตัวใหม่ (ราคา 5 หมื่นบาท) ที่คุณสุนาและคุณเบิร์ดซื้อถวายวัด เนื่องจากตัวเก่าชำรุด


Image
ของใหม่ - ของเก่า
"ดูก่อน ทีฆนขะ มนุษย์เรานี้ บุคคลใดได้รับความสุข ก็จะลืมความทุกข์ชั่วขณะ บุคคลใดได้รับความทุกข์ ก็หาความสุขขณะนั้นไม่พบ คนส่วนมาก เมื่อมีทุกข์ มักคิดว่าทุกข์นั้นเป็นสิ่งเที่ยงแท้ เมื่อมีสุข ก็สำคัญว่าสุขนั้นจะอยู่กับเราตลอดไป หาคิดไม่ ว่าเป็นเสมือนการเห็นดวงจันทร์ในขันน้ำ มิอาจคว้าดวงจันทร์นั้นได้ คว้าได้แต่ขันเท่านั้นเอง สุขและทุกข์จึงเป็นของไม่เที่ยง เมื่อเห็นดังนี้แล้ว ผู้มีสติก็ย่อมเบื่อหน่ายทั้งสุขและทุกข์ ย่อมหลุดพ้นจากความยึดมั่นถือมั่น ไม่วิวาททุ่มเถียงกับผู้ใด แม้คำพูดนั้นจะระคายหู ก็ให้มีสติรู้ ว่าเป็นเพียงแค่คำพูดเท่านั้น"(พุทธพจน์)
ผู้เขียน
 
จำนวนผู้ตอบ: 77
สมัครสมาชิก: Sun Mar 14, 2010 12:23 pm
ที่อยู่: 4 Gunnamatta Place, Kelmscott, Western Australia, Australia, 6111

Re: กฐินแรก วัดป่าวิเวกสิกขาราม

Postโดย กัปตัน » Thu Jan 27, 2011 4:59 pm

:D :D :D สาธุ สาธุ สาธุ ครับ :D :D :D
กัปตัน
 
จำนวนผู้ตอบ: 36
สมัครสมาชิก: Thu Apr 08, 2010 1:44 am

Re: กฐินแรก วัดป่าวิเวกสิกขาราม

Postโดย ศิษย์พระอาจารย์ » Fri Jan 28, 2011 11:28 am

:D ขออนุโมทนา ในจิตอันเป็นกุศลของทุก..ทุก ท่านด้วยเจ้าค่ะ
ศิษย์พระอาจารย์
 
จำนวนผู้ตอบ: 27
สมัครสมาชิก: Fri Apr 09, 2010 12:26 pm

Re: กฐินแรก วัดป่าวิเวกสิกขาราม

Postโดย ผู้เขียน » Sun Feb 27, 2011 3:40 pm

ความคืบหน้าการก่อสร้างวิหารพระพุทธเจ้าสิืขี ณ สำนักปฏิบัติธรรมป่าวิเวกสิกขาราม ช่วงปลายมกราคม - กลางกุมภาพันธ์ 2554

หมายเหตุ: ที่ใต้วิหารพระุพุทธเจ้าสิขีที่กำลังสร้างนี้ ลึกลงไป เป็นที่ประดิษฐานพระเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาุตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสิขี เมื่อ 31 กัปป์ล่วงมาแล้ว ขอพุทธานุภาพแห่งพระองค์ และอานุภาพแห่งการอุทิศกำลังกาย กำำลังใจ และกำลังทรัพย์ของทุกท่านเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา จงเป็นประดุจดวงประทีปช่วยนำทางผู้ปฏิบัิติธรรมให้ถึงฝั่งพระนิพพานด้วยกันทุกท่านเถิด

Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image


Image
ซ้ายมือสุด คือ พระพุทธรูปปางสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ (สมเด็จองค์ปฐม) ที่มีผู้นำมาถวายโดยมิได้นัดหมาย
เพียง 1 วันหลังจากที่ท่าน "ผู้รู้" ได้ไปกราบสมเด็จองค์ปฐมที่วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

เรื่องเกี่ยวกับสมเด็จองค์ปฐมโดย ท่านผู้รู้

เรื่องสมเด็จองค์ปฐม

เล่าถึงเหตุการณ์ วันที่ 20 มกราคม 2554 เวลา 15.00 น โดยตัวผู้เขียนมีความสงสัยมากในเรื่อง พระพุทธเจ้าองค์ปฐม ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ และค่อนข้างจะไม่เชื่อด้วย แต่ในวันที่ 20 มกราคม 2554 พระอาจารย์ได้ออกมารับโยมคณะหนึ่ง ซึ่งไม่รู้จักมาก่อน ท่านห่มจีวรและนั่งท่านี้ โดยไม่ได้ตั้งใจมาก่อน (เพราะปกติท่านไม่เคยนั่งท่านี้) ท่านก็เทศนาตอบสนทนากับโยมที่มาทำบุญ โดยท่านเทศนา ในเรื่องพระนิพพานไม่สูญ จริยาการพูดท่านนิ่มนวลมาก ตัวผู้เขียนได้เห็นพระองค์หนึ่ง นั่งอยู่ด้านหลังพระอาจารย์ โดยนึกในใจคาดว่า จะเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง เพราะว่าท่านสูงมาก และเหมือนพระพุทธเจ้าที่เคยเห็น แต่ตัวผู้เขียนเอง ไม่เคยเห็นท่านมาก่อนเลย จึงสงสัย และถามว่าท่านเป็นใคร ท่านก็บอกว่า เราเป็นต้นวงศ์ ของพระพุทธเจ้า ท่านมาประทับท่าปางนิพพาน ห่มจีวรแล้วก็หายไป ตัวผู้เขียนจึงรีบนำกล้องมาถ่ายท่านั่งของท่านพระอาจารย์ไว้ เนื่องจากเป็นท่าเดียวกับพระพุทธเจ้า เพื่อให้คนอื่นได้ชม ต่อมาคุณกัปตัน ได้นำหนังสือธรรมวิโมกข์มาให้ดู ปกหลัง มีรูปพระองค์หนึ่งชื่อว่าพระวิสุทธิเทพ นั่งท่าเดียวกับพระพุทธเจ้าที่ผู้เขียนเห็น คุณกัปตันก็บอกนี่ พระพุทธเจ้าองค์ปฐม ก็เลยแปลกใจมากว่าตรงกัน เพียงแต่ ที่ผู้เขียนเห็นทรงจีวร ส่วนพระวิสุทธิเทพท่านทรงเครื่องกษัตริย์ ต่อมาในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2554 คุณกัปตันได้ชวนผู้เขียนให้ไปวัดท่าซุง ที่จังหวัด อุทัยธานี ซึ่งผู้เขียนไม่เคยไปมาก่อน จึงได้ตกลงว่าจะไป แต่ก็หาโอกาสว่างยังไม่ได้สักที พอว่างหลังจากพบแพทย์แล้ว จึงได้ไปวัดท่าซุงกัน ปรากฎว่าพอไปถึงวัดท่าซุง มีพระองค์หนึ่งออกมารับหน้าวัด เป็นพระปางพระพุทธชินราช แต่พระพักตร์เหมือนกับที่เห็นอยู่ด้านหลังพระอาจารย์ จึงมั่นใจแน่นอนว่าวัดนี้คือ วัดท่าซุง จึงถามคุณกัปตันว่า วัดที่มีรั่วออกสีแดงๆ นี่ใช่วัดท่าซุงมั้ย คุณกัปตันก็บอกว่าใช่ คุณกัปตันก็ถามว่าต้องการไปที่ไหนก่อน ผู้เขียนบอกว่า ไปดูพระวิสุทธิเทพก่อน จึงพากันเข้าไปในวิหารพระวิสุทธิเทพปางนิพพาน ก็ปรากฎว่าพบพระพุทธเจ้าองค์เดิมอีก ท่านก็มาสั่งงาน ในกิจพระพุทธศาสนา ตัวผู้เขียนก็บอกว่าไม่ไหวหรอก บารมีไม่พอ ท่านก็บอกว่า พอ แล้วท่านจะช่วย ตัวผู้เขียนก็สงสัยว่าท่านจะช่วยอย่างไร ต่อมาจึงนำไปกราบเรียนให้พระอาจารย์ฟังในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2554 แล้วกราบเรียนให้ท่านฟัง เรื่องพระพุทธ์เจ้าองค์ปฐม ท่านก็บอกว่าที่วัดมีคนนำพระพุทธรูป สมเด็จองค์ปฐมมาถวายในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ โดยไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ซึ่งผู้เขียนก็ประหลาดใจมาก จึงเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสมเด็จองค์ปฐมว่ามีจริง และท่านก็ยืนยัน พระนิพพานไม่สูญ


Image


ทั้งนี้ ที่วัดท่าซุง หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้จารึกพระนามของพระองค์ไว้ว่า "สมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลที่ 1"
ด้วยเหตุนี้ พระอาจารย์วิชัย จึงมีดำริว่าจะอัญเชิญพระพุทธรูปพระองค์นี้ ไปประดิษฐานที่วิหารของพระพุทธเจ้าสิขีด้วย
พร้อมกับพระพุทธรูปหยกขาว องค์แทนพระพุทธเจ้าสิขี ที่ตั้งไว้ก่อนหน้านี้ ดังนั้น หลังจากวิหารก่อสร้างเสร็จ
ก็จะมีพระพุทธรูปทั้ง 2 องค์ ประดิษฐานไว้ในวิหาร คือ พระพุทธรูปปางสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ (แทนองค์สมเด็จ
องค์ปฐม หรือคือสมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลที่ 1
) และพระุพุทธรูปหยกขาว (แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสิขี ที่ทรงพระชนม์ชีพเมื่อ 31 กัปป์ที่แล้ว)

หมายเหตุ ประวัติสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม แบบย่อ โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

" ท่านสาธุชนทั้งหลาย ตอนนี้ก็มาพูดกันถึงเรื่อง สมเด็จองค์ปฐม สำหรับคำว่า “สมเด็จองค์ปฐม” ก็คือพระพุทธเจ้าองค์แรกหรือองค์ที่ 1 เรียกว่า “องค์ปฐม” ขอเล่าย้อนตอนหลังสักนิด คือเมื่อประมาณ พ.ศ. 2511 ตอนนั้นอาตมา (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง) มาอยู่ที่วัดท่าซุงแล้วและ พล.อ.อ.อาทร โรจนวิภาต เวลานั้นเป็นนาวาอากาศเอก เป็นผู้บังคับกองฝึกโรงเรียนการบิน ที่นครราชสีมา ทราบว่าอาตมาป่วย จึงนิมนต์ไปพักที่นั้น ตอนกลางคืน สามีภรรยาก็นั่งเจริญพระกรรมฐาน อาตมาเป็นคนแนะนำ ขณะที่แนะนำเขาอยู่ เมื่อเสร็จแล้วก็ทำสมาธิ ขณะที่ทำสมาธิ บรรดาท่านพุทธบริษัท สิ่งที่คาดไม่ถึงก็ปรากฏขึ้น นั่นคือเห็นเป็นพระพุทธเจ้าในปางนิพพานยืนสองแถวยางเหยียดไปข้างหน้า แล้วก็พนมมือ จึงมีความรู้สึกในใจว่า บางที่อาจเป็นอุปทานของเรา เพราะว่าพระพุทธเจ้าไม่เคยก้มศีรษะให้ใคร แม้แต่บ้านเรือนเล็กๆที่หลังคาต่ำๆ ที่พระพุทธเจ้าเข้าไป หลังคา ก็สูงขึ้น แต่เวลานี้เราเห็นพระพุทธเจ้ายืนพนมมือ อุปาทานคือกิเลสคงกินใจมาก เมื่อนึกเพียงเท่านี้ ก็เห็นภาพ หลวงพ่อปาน ปรากฏขึ้นข้างๆ ท่านบอกว่า “คุณ…..ไม่ใช่อุปาทาน ประเดี๋ยวพระพุทธเจ้าองค์ปฐมจะเสด็จมา” อีกประมาณสัก 5 นาที ปรากฏว่ามีพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง รูปร่างใหญ่โตมาก สูงมาก มาในรูปของปางนิพพาน เดินมาระหว่างช่องกลาง พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ก้มศรีษะแสดงความเคารพ เพราะพนมมืออยู่แล้ว พอท่านเดินมาถึงอาตมา ท่านก็พูดว่า “ข้าจะนั่งที่ไหนหว่า….ในเมื่อไม่มีที่นั่ง ข้าเอาหัวแกเป็นแท่นก็แล้วกัน” ก็เลยนั่งบนหัว แล้วก็บอกว่า “นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ก่อนที่แกจะสอนกรรมฐานก็ดี จะพูดธรรมะก็ดี จะเทศน์ก็ดี บอกฉันก่อน ฉันให้พูด ตอนไหนจะเทศน์ตอนไหน ให้ว่าตามนั้น” ก็เป็นความจริงบรรดาท่านพุทธบริษัท เวลาสอนกรรมฐานก็ดี เทศน์ก็ดี บางที่คิดว่าวันนี้ จะพูดเรื่องอย่างนี้ แต่พอพูดเข้าจริงๆ เรื่องนั้นไม่ได้พูด ไปพูดอีกจุดหนึ่ง อันนี้เป็นลีลาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ การเทศน์ของพระพุทธเจ้ามุ่งเฉพาะบุคคลสำคัญคนใดคนหนึ่ง ไม่ได้หวังคนทั่วไป คนจะนั่งสักหนึ่งพัน สองพัน ห้าพันก็ตาม ท่านจะดูจิตใจว่า บุคคลใดจะรับคำเทศนาของท่านได้ จะสามารถบรรลุมรรคผลได้ ท่านจะจี้จุดเฉพาะคนนั้น เอาจุดเด่น แต่ว่าคนที่มีความดี ใกล้เคียงกัน ก็พลอยบรรลุมรรคผลไปตามๆกัน "

ทั้งนี้ สมเด็จองค์ปฐมทรงพระนามว่า “สมเด็จพระพุทธสิกขีที่1” แต่พระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ผ่านไปแล้ว อาจจะมีชื่อซ้ำกันก็ได้ โดยเฉพาะ ชื่อนี้มีด้วยกันถึง 5 พระองค์ จึงเรียกขานกันว่าเป็น “สมเด็จพระพุทธสิกขีที่ 1” พระองค์จึงทรงเป็นต้นพระวงศ์ ของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ จึงสมควรยกย่องพระองค์ว่าทรงเป็น “สมเด็จองค์ปฐมบรมครู" อย่างแท้จริง

ครั้งหนึ่ง พระพุทธองค์เสด็จมาเล่าให้ฟังที่บ้านสายลมว่า สมัยที่พระองค์ทรงอุบัติในโลกมนุษย์ ในเวลานั้นคนมีอายุขัย ประมาณ 8 หมื่นปี พระองค์เสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์เมื่อพระชนมายุได้ 4 หมื่นปีหลังจากทรงผนวชแล้วเป็นเวลาอีก 2 หมื่นปี จึงได้ ทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์แรกของโลก พระองค์ทรงสั่งสอนเวไนยสัตว์อีกประมาณ 2 หมื่นปี จึงเสด็จดับขันธปรินิพพาน หลังจากทรงใช้เวลาอันยาวนานถึง 40 อสงไขยกัป ในการบำเพ็ญพระบารมี เพื่อแสวงหาพระโพธิญาณด้วยพระองค์เอง"
"ดูก่อน ทีฆนขะ มนุษย์เรานี้ บุคคลใดได้รับความสุข ก็จะลืมความทุกข์ชั่วขณะ บุคคลใดได้รับความทุกข์ ก็หาความสุขขณะนั้นไม่พบ คนส่วนมาก เมื่อมีทุกข์ มักคิดว่าทุกข์นั้นเป็นสิ่งเที่ยงแท้ เมื่อมีสุข ก็สำคัญว่าสุขนั้นจะอยู่กับเราตลอดไป หาคิดไม่ ว่าเป็นเสมือนการเห็นดวงจันทร์ในขันน้ำ มิอาจคว้าดวงจันทร์นั้นได้ คว้าได้แต่ขันเท่านั้นเอง สุขและทุกข์จึงเป็นของไม่เที่ยง เมื่อเห็นดังนี้แล้ว ผู้มีสติก็ย่อมเบื่อหน่ายทั้งสุขและทุกข์ ย่อมหลุดพ้นจากความยึดมั่นถือมั่น ไม่วิวาททุ่มเถียงกับผู้ใด แม้คำพูดนั้นจะระคายหู ก็ให้มีสติรู้ ว่าเป็นเพียงแค่คำพูดเท่านั้น"(พุทธพจน์)
ผู้เขียน
 
จำนวนผู้ตอบ: 77
สมัครสมาชิก: Sun Mar 14, 2010 12:23 pm
ที่อยู่: 4 Gunnamatta Place, Kelmscott, Western Australia, Australia, 6111

Re: กฐินแรก วัดป่าวิเวกสิกขาราม

Postโดย aor » Sun Feb 27, 2011 7:22 pm

กราบนมัสการสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมและสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

กราบพระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

กราบพระอาจารย์วิชัย

ด้วยเศียรเกล้า

_/l\_ _/l\__/l\_
aor
 
จำนวนผู้ตอบ: 62
สมัครสมาชิก: Wed Apr 21, 2010 1:30 pm

Re: กฐินแรก วัดป่าวิเวกสิกขาราม

Postโดย กัปตัน » Mon Feb 28, 2011 12:28 am

:D :D :D สาธุ สาธุ สาธุ ครับ :D :D :D
กัปตัน
 
จำนวนผู้ตอบ: 36
สมัครสมาชิก: Thu Apr 08, 2010 1:44 am

Re: กฐินแรก วัดป่าวิเวกสิกขาราม

Postโดย wiweksikkaram.hi5 » Mon Feb 28, 2011 10:40 am

สาธุ นะโมเม สัพพะ พุทธานัง
เวลาทำสมาธิ

ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก

ให้รู้ลมหายใจเข้าออก

หายใจเข้าสั้นก็รู้

หายใจออกสั้นก็รู้

หายใจเข้ายาวก็รู้

หายใจออกยาวก็รู้

ไม่ต้องบังคับลมหายใจ

ตามรู้ลมหายใจเข้าออก

สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้

สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย

ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ

เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น

ทำอะไรก็ให้รู้เหตุปัจจัย

รู้ไม่ใช่เพื่อ ยินดี ยินร้าย รู้เพื่อให้ รู้เหตุปัจจัย

เหตุแห่งความเจริญ

เคารพ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

เคารพ สิกขา 3 ศีล สมาธิ ปัญญา

เคารพในความไม่ประมาท

เคารพในการปฎิสันฐาน

เคารพใน ศีล

เคารพใน สมาธิ

เคารพในกันและกัน

หลักตัดสิน ธรรมวินัย 8 ประการ

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด

เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้

เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส

เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย

เป็นไปเพื่อสันโดษ

เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ

เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร

เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย

ธรรมที่ควรเจริญ

สติ

สัมปัชชัญญะ

ศีล

สมาธิ

ปัญญา

วิมุตติ

วิมุตติญาณทัสสนะ

สัมมาทิฏฐิ เห็นชอบ

สัมมาสังกัปปะ ดำริชอบ

สัมมาวาจา พูดชอบ

สัมมาอาชีโว อาชีพชอบ

สัมมากัมมันโต การงานชอบ

สัมมาวายาโม ความเพียรชอบ

สัมมาสติ ระลึกชอบ

สัมมาสมาธิ ตั้งมั่นชอบ

สัมมาญาณะ ความรู้ชอบ

สัมมาวิมุตติ หลุดพ้นชอบ

สัมมาวิมุตติญาณทัสสนะ ความเห็นในการหลุดพ้นชอบ

สัมมาทิฏฐิ

คือ รู้ชัดซึ่ง เหตุแห่ง กุศล วิชชา เป็น เหตุ

รู้ชัดซึ่ง เหตุแห่ง อกุศล อวิชชา เป็น เหตุ

การบรรลุธรรมอาศัย สติ ปัญญา อุเบกขา เป็นมัทยัทธ์

รักษาสัจจะ เพิ่มพูลจาคะ ไม่ประมาทปัญญา ศึกษาสันติ

การปฎิบัติธรรม

คบสัตบุรุษ ฟังพระสัทธรรม อยู่ในประเทศเหมาะสม ตั้งสัจจะ เดินสัมมาทิฏฐิ เจริญความสงบ

ออกพิจารณาด้านปัญญา + พลังกุศล - บ่มอินทรีย์ นิพพิทา วิราคะ วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ

สติ - ศีล - สมาธิ - ปัญญา - วิมุตติ - วิมุตติญาณทัสสนะ

อัปปมาโณพุทโธ อานุภาพพระพุทธเจ้าไม่มีประมาณ

อัปปมาโณธัมโม อานุภาพพระธรรมไม่มีประมาณ

อัปปมาโณสังโฆ อานุภาพพระสงฆ์ไม่มีประมาณ

เรื่องของสมมติ อวิชชา ตัวตน ยึดตรงไหน หลงที่ไหน ผิดที่นั้น จุดต่อมแห่งภพชาติ

wiweksikkaram.hi5
 
จำนวนผู้ตอบ: 114
สมัครสมาชิก: Mon Mar 15, 2010 12:20 am
ที่อยู่: สุทธาวาสภูมิ

Re: กฐินแรก วัดป่าวิเวกสิกขาราม

Postโดย kanlaya » Mon Feb 28, 2011 12:53 pm

สาธุ สัพพุทธานุภาเวนะ สัพธัมมานุภาเวนะ สัพสังฆานุภาเวนะ และอนุโมทนาบุญกับทุกท่าน ทุกองค์ ทั้งที่มองเห็นมองและไม่เห็นด้วยตาเปล่า ด้วยเทอญ
kanlaya
 
จำนวนผู้ตอบ: 8
สมัครสมาชิก: Mon Jul 05, 2010 6:51 pm

Re: กฐินวัดป่าวิเวกสิกขาราม และ การสร้างวิหารพระพุทธเจ้าสิขี

Postโดย wiweksikkaram.hi5 » Mon Apr 04, 2011 1:20 am

รูปการก่อสร้างวิหารพระพุทธเจ้าสิขี อัพเดต 29 มีนาคม 2554

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image
เวลาทำสมาธิ

ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก

ให้รู้ลมหายใจเข้าออก

หายใจเข้าสั้นก็รู้

หายใจออกสั้นก็รู้

หายใจเข้ายาวก็รู้

หายใจออกยาวก็รู้

ไม่ต้องบังคับลมหายใจ

ตามรู้ลมหายใจเข้าออก

สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้

สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย

ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ

เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น

ทำอะไรก็ให้รู้เหตุปัจจัย

รู้ไม่ใช่เพื่อ ยินดี ยินร้าย รู้เพื่อให้ รู้เหตุปัจจัย

เหตุแห่งความเจริญ

เคารพ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

เคารพ สิกขา 3 ศีล สมาธิ ปัญญา

เคารพในความไม่ประมาท

เคารพในการปฎิสันฐาน

เคารพใน ศีล

เคารพใน สมาธิ

เคารพในกันและกัน

หลักตัดสิน ธรรมวินัย 8 ประการ

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด

เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้

เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส

เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย

เป็นไปเพื่อสันโดษ

เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ

เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร

เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย

ธรรมที่ควรเจริญ

สติ

สัมปัชชัญญะ

ศีล

สมาธิ

ปัญญา

วิมุตติ

วิมุตติญาณทัสสนะ

สัมมาทิฏฐิ เห็นชอบ

สัมมาสังกัปปะ ดำริชอบ

สัมมาวาจา พูดชอบ

สัมมาอาชีโว อาชีพชอบ

สัมมากัมมันโต การงานชอบ

สัมมาวายาโม ความเพียรชอบ

สัมมาสติ ระลึกชอบ

สัมมาสมาธิ ตั้งมั่นชอบ

สัมมาญาณะ ความรู้ชอบ

สัมมาวิมุตติ หลุดพ้นชอบ

สัมมาวิมุตติญาณทัสสนะ ความเห็นในการหลุดพ้นชอบ

สัมมาทิฏฐิ

คือ รู้ชัดซึ่ง เหตุแห่ง กุศล วิชชา เป็น เหตุ

รู้ชัดซึ่ง เหตุแห่ง อกุศล อวิชชา เป็น เหตุ

การบรรลุธรรมอาศัย สติ ปัญญา อุเบกขา เป็นมัทยัทธ์

รักษาสัจจะ เพิ่มพูลจาคะ ไม่ประมาทปัญญา ศึกษาสันติ

การปฎิบัติธรรม

คบสัตบุรุษ ฟังพระสัทธรรม อยู่ในประเทศเหมาะสม ตั้งสัจจะ เดินสัมมาทิฏฐิ เจริญความสงบ

ออกพิจารณาด้านปัญญา + พลังกุศล - บ่มอินทรีย์ นิพพิทา วิราคะ วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ

สติ - ศีล - สมาธิ - ปัญญา - วิมุตติ - วิมุตติญาณทัสสนะ

อัปปมาโณพุทโธ อานุภาพพระพุทธเจ้าไม่มีประมาณ

อัปปมาโณธัมโม อานุภาพพระธรรมไม่มีประมาณ

อัปปมาโณสังโฆ อานุภาพพระสงฆ์ไม่มีประมาณ

เรื่องของสมมติ อวิชชา ตัวตน ยึดตรงไหน หลงที่ไหน ผิดที่นั้น จุดต่อมแห่งภพชาติ

wiweksikkaram.hi5
 
จำนวนผู้ตอบ: 114
สมัครสมาชิก: Mon Mar 15, 2010 12:20 am
ที่อยู่: สุทธาวาสภูมิ

Re: กฐินวัดป่าวิเวกสิกขาราม และ การสร้างวิหารพระพุทธเจ้าสิขี

Postโดย aor » Mon Apr 04, 2011 7:39 pm

_/l\_ _/l\_ _/l\_
aor
 
จำนวนผู้ตอบ: 62
สมัครสมาชิก: Wed Apr 21, 2010 1:30 pm

Re: กฐินวัดป่าวิเวกสิกขาราม และ การสร้างวิหารพระพุทธเจ้าสิขี

Postโดย กัปตัน » Tue Apr 05, 2011 1:09 am

สาธุครับ
กัปตัน
 
จำนวนผู้ตอบ: 36
สมัครสมาชิก: Thu Apr 08, 2010 1:44 am


กลับไปหน้า ธรรมทาน งานบุญ

ผู้ที่กำลัง online

ผู้ที่กำลังอ่าน forum นี้: สมาชิก ไม่มีสมาชิก และ ผู้เยี่ยมชม 20 คน

cron