----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“พระมหาเจดีย์พระพุทธเจ้า ๗ พระองค์”
ณ สถานปฏิบัติธรรมป่าวิเวกสิกขาราม อ.พล จ.ขอนแก่น
๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๓
มูลเหตุการสร้างพระเจดีย์
เมื่อทราบว่า มีเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าในอดีตถึง ๓ พระองค์อยู่ใต้ดินของสถานปฏิบัติธรรมป่าวิเวกสิกขาราม คือเจดีย์พระพุทธเจ้ากัสสปะ เจดีย์พระพุทธเจ้าเวสสภู เจดีย์พระพุทธเจ้าสิขี และมีพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าวิปัสสีสถิตอยู่ที่พรหมโลกสุทธาวาส พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้ากกุสันโธสถิตอยู่ใต้ทะเล ณ บริเวณที่ปัจจุบันเรียกว่าทะเลแคริบเบียนใกล้สาธารณรัฐเฮติ พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าโกนาคมโนสถิตอยู่ที่ภูเขาหิมาลัย ต่อมาในวันที่ ๓๐ ธ.ค. ๕๒ สุทธาวาสพรหมทั้ง ๕ ชั้นได้ลงมาประชุมที่ศาลาพลานุภาพ ของสถานปฏิบัติธรรมฯในเวลาประมาณ ๒๐.๐๗.๔๔ น. โดยมีอานุภาพพระพุทธเจ้าทั้ง ๗ พระองค์เป็นประธาน ดังรูปที่ ๑

รูปที่ ๑
เหตุที่มาประชุม ก็เพื่อจะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าวิปัสสีมายังโลกมนุษย์ โดยตกลงว่าจะอัญเชิญมาในวันวิสาขบูชา(ศุกร์ที่ ๒๘ พฤษภาคม ๕๓) โดยให้ทำเนินดินเป็นที่รองรับการเสด็จลงมาของพระบรมสารีริกธาตุ การมาประชุมของสุทธาวาสพรหมครั้งนั้น เป็นเหตุพิเศษให้อานุภาพพระพุทธเจ้า ๗ พระองค์ แสดงธรรมโปรดพรหมและเทวดาตลอด ๗ วัน ๗ คืน (เริ่มวันที่ ๓๐ ธ.ค.๕๒ - ถึงเวลา ๑.๑๖ น.วันที่ ๖ ม.ค.๕๓ หลังจากแสดงยมกปาฏิหาริย์) ณ สถานปฏิบัติธรรมป่าวิเวกสิกขาราม ซึ่งอานุภาพพระพุทธเจ้าสามารถช่วยพรหมและเทวดาให้บรรลุธรรมถึง ๙๘๔ โกฏิ สำเร็จพระอรหันต์ ๙๙ องค์ ส่วนใหญ่เป็นสุทธาวาสพรหม ดังรูปที่ ๒, ๓, ๔ และ ๕

รูปที่ ๒

รูปที่ ๓

รูปที่ ๔

รูปที่ ๕
วันที่ ๑ - ๓ มกราคม ๕๓ ในช่วงเช้า อานุภาพพระพุทธเจ้า ๗ พระองค์เสด็จนำพระภิกษุบิณฑบาตด้วย ดังรูปที่ ๖ และ ๗

รูปที่ ๖

รูปที่ ๗
ต่อมาวันที่ ๑๓ มกราคม ๕๓ เวลา ๐๔.๕๓ น.(เวลาในไทย) เกิดแผ่นดินไหวที่สาธารณรัฐเฮติ ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ในทะเลแคริบเบียน เป็นเหตุให้เจดีย์พระพุทธเจ้ากกุสันโธแตก ซึ่งเป็นการถอนคำอธิษฐานที่พระอรหันต์เคยอธิษฐานปิดพระเจดีย์ไว้โดยอัตโนมัติ และวันที่ ๑๔ มกราคม ๕๓ เวลาประมาณ ๑๙.๓๙ น. เหล่าพรหม เทวดา อสูร นาค ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุกับรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากกุสันโธ ซึ่งยาวประมาณ ๓ เมตร และพระอรหันตธาตุในยุคสมัยของพระองค์ ขึ้นจากทะเลแคริบเบียนไปประดิษฐานที่ดาวดึงส์เทวโลก ต่อมาวันเสาร์ที่ ๑๔ สิงหาคม ๕๓ พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้ากกุสันโธ ได้เสด็จลงมาที่ที่พักสงฆ์ป่าวิเวกสิกขาราม ฝังลงตรงเนินดิน ตำแหน่งเดียวกันกับพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าวิปัสสีที่เสด็จลงมาก่อนหน้านั้น(วันวิสาขบูชา) ต่างกันที่ความลึก โดยฝังลึกลงจากพื้นดินประมาณ ๑๘ เมตร รวมเวลาที่พระบรมสารีริกธาตุพระพุทธเจ้ากกุสันโธประดิษฐานที่ดาวดึงส์เทวโลกเป็นเวลา ๗ เดือนเต็มพอดี บริเวณเนินดินนี้จึงเป็นสถานที่จะสร้างพระเจดีย์ครอบพระบรมสารีริกธาตุไว้
มูลเหตุชื่อพระเจดีย์
วันอาทิตย์ที่ ๕ กันยายน ๕๓ เมื่อมีผู้ดำริจะทำผ้าป่ามาสร้างฐานรองรับพระพุทธรูปหยกเขียวหน้าตัก ๖๙ นิ้ว(ดังรูปแกะสลักจำลองข้างล่างนี้) ซึ่งจะประดิษฐานไว้ในพระมหาเจดีย์พระพุทธเจ้า ๗ พระองค์ และเป็นพระพุทธรูปเพื่อแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าวิปัสสี

ในวันดังกล่าว อานุภาพพระพุทธเจ้าได้ปรากฏแสดงที่ตั้งพระพุทธรูปหยกเขียว ตำแหน่งบนเนินดินเยื้องออกด้านข้าง ซึ่งเป็นจุดที่พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าวิปัสสีและพระพุทธเจ้ากกุสันโธลงมาฝังในดิน หันหน้าไปหน้าวัดทางทิศใต้ และแสดงที่ตั้งพระพุทธรูปหยกขาวซึ่งจะประดิษฐานไว้ที่วิหารพระพุทธเจ้าสิขี ให้หันหน้ามาทางเนินดินทิศตะวันออก ดังรูปที่ ๘ และอีกภาพหนึ่งแสดงเงาพระพุทธบนเลข ๗ ไทย บอกชื่อเจดีย์ที่จะสร้างคือ “พระมหาเจดีย์พระพุทธเจ้า ๗ พระองค์” ดังรูปที่ ๙

รูปที่ ๘

รูปที่ ๙
อานุภาพพระพุทธเจ้าปรากฏ
อานุภาพพระพุทธเจ้ากัสสปะ ที่เจดีย์ของพระองค์อยู่ที่ศาลาพลานุภาพใต้พระพุทธชินราชจำลองลึกลงไปประมาณ ๓๒ เมตร วันที่ ๑๓ ธันวาคม ๕๒ อานุภาพเปล่งขึ้นมาจากพระบรมสารีริกธาตุภายในเจดีย์ที่อยู่ใต้ดิน จะเห็นเงาสีตามวัตถุที่แท่นประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลอง พุ่งขึ้นบนตามแนวดิ่งดังรูปที่ ๑๐

รูปที่ ๑๐
อานุภาพพระพุทธเจ้าเวสสภูและพระพุทธเจ้าสมณโคดม โดยเจดีย์พระพุทธเจ้าเวสสภู อยู่ใต้วิหารพระพุทธเจ้าเวสสภู ในวันที่ ๑๒ เมษายน ๕๓ อานุภาพพระพุทธเจ้าเวสสภูเปล่งขึ้นมาจากพระบรมสารีริกธาตุภายในเจดีย์ที่อยู่ใต้ดิน ช่วยส่งเสริมผู้ปฏิบัติธรรม จะเห็นยกเงากระเบื้องขึ้นด้วย และอานุภาพเปล่งจากใต้แผ่นดินเข้าหาผู้ปฏิบัติธรรมดังรูปที่ ๑๑ และ ๑๒

รูปที่ ๑๑

รูปที่ ๑๒
และอีกภาพยกเงากระเบื้องขึ้นซ้อนบนมือพระอาจารย์วิชัยดังรูปที่ ๑๓

รูปที่ ๑๓
วันที่ ๑๓ เมษายน ๕๓ ช่วงที่จะประดิษฐานพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาไว้ที่วิหารพระพุทธเจ้าเวสสภู(วันประดิษฐานคือ ๑๖ ตุลาคม ๕๒) ได้มีโยมถวายพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าสมณโคดม จึงไว้บนแท่นพระแล้วประดิษฐานพระพุทธรูปครอบไว้ดังรูปที่ ๑๔

รูปที่ ๑๔
จึงมีอานุภาพพระพุทธเจ้าเวสสภูและพระพุทธเจ้าสมณโคดมปรากฏทั้ง ๒ พระองค์ จะเห็นเงาเสาและเงาพัดลมเป็น ๒ เงา ส่วนเงากระเบื้องยกขึ้นถึงเพดานนั้นเป็นของพระพุทธเจ้าเวสสภูดังรูปที่ ๑๕

รูปที่ ๑๕
อานุภาพพระพุทธเจ้าวิปัสสี
วันวิสาขบูชา ศุกร์ที่ ๒๘ พฤษภาคม ๕๓ เหล่าพรหมและเทวดาได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าวิปัสสี ให้เสด็จลงมาสู่โลกมนุษย์ ฝังลงใต้ดินตรงตำแหน่งเนินดิน โดยอัญเชิญลงมาเวลา ๒๐.๐๘.๒๘ น. ดังรูปที่ ๑๖

รูปที่ ๑๖
วันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๕๓ อานุภาพพระพุทธเจ้าวิปัสสีเปล่งจากใต้แผ่นดินยกเงาผ้าขาวขึ้น ดังรูปที่ ๑๗ และ ๑๘

รูปที่ ๑๗

รูปที่ ๑๘
วันที่ ๕ มิถุนายน ๕๓ พระโพธิสัตว์ ๑๐ พระองค์มาสักการะพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าวิปัสสี ดังรูปที่ ๑๙

รูปที่ ๑๙
วันที่ ๖ มิถุนายน ๕๓ อานุภาพพระพุทธเจ้าวิปัสสี(สังฆาฏิมุมซ้าย)และอานุภาพพระพุทธเจ้าสิขี(สังฆาฏิมุมขวา) ดังรูปที่ ๒๐

รูปที่ ๒๐
วันที่ ๒๐ - ๒๑ สิงหาคม ๕๓ อานุภาพพระพุทธเจ้าวิปัสสี(สังฆาฏิกลางเนินดิน)ปฏิสันฐารกับเทวดา ดังรูปที่ ๒๑ ถึง ๒๔

รูปที่ ๒๑

รูปที่ ๒๒

รูปที่ ๒๓

รูปที่ ๒๔
อานุภาพพระพุทธเจ้ากกุสันโธ
วันเสาร์ที่ ๑๔ สิงหาคม ๕๓ พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้ากกุสันโธ ได้เสด็จลงมาที่สถานปฏิบัติธรรมป่าวิเวกสิกขาราม ในเวลาประมาณ ๑๙.๔๙.๓๐ ถึง ๑๙.๕๓.๒๒ น.ดังรูปที่ ๒๕ - ๒๘

รูปที่ ๒๕

รูปที่ ๒๖

รูปที่ ๒๗

รูปที่ ๒๘
วันเสาร์ที่ ๕ กันยายน ๕๓ อานุภาพพระพุทธเจ้ากกุสันโธปรากฏ(สังฆาฏิบนเนินดินและขึ้นมาตรงจุดที่พระบรมสารีริกธาตุฝังลงดิน) ดังรูปที่ ๒๙ และ ๓๐

รูปที่ ๒๙

รูปที่ ๓๐
อานุภาพพระพุทธเจ้าแสดงพุทธลักษณะ
วันที่ ๗ กันยายน ๕๓ อานุภาพพระพุทธเจ้าเสด็จเดินนำพระอาจารย์วิชัยและคนอื่นๆ ดังรูปที่ ๓๑

รูปที่ ๓๑
อีกภาพเป็นรูปโลกมีสังฆาฏิบังแสงไฟและมีเงาพระพุทธเจ้า ๒ พระองค์อยู่ข้างสังฆาฏิดังรูปที่ ๓๒

รูปที่ ๓๒
ลักษณะพระเจดีย์
เจดีย์ออกแบบให้เรียบง่าย ไม่มีลวดลายมาก ให้ก่อสร้างง่าย ดูแลรักษาง่าย ไม่ใหญ่โต คนสามารถเข้าไปข้างในได้ มีทางเข้า ๔ ทาง เป็นแบบผสมผสานระหว่างพระธาตุขามแก่นกับพระธาตุพนม ขนาดวัดจากบันไดข้างหนึ่งถึงบันไดอีกข้างหนึ่ง กว้าง ๒๐ เมตร สูง ๓๐ เมตร ภายในกว้าง ๙ เมตร (ดังรูปที่ ๓๓-๓๔) เพื่อสักการะและปฏิบัติบูชา ขออานุภาพพระพุทธเจ้าทั้ง ๗ พระองค์ ช่วยส่งเสริมผู้ปฏิบัติธรรมให้พ้นจากกองทุกข์

รูปที่ ๓๓

รูปที่ ๓๔
ทุนทรัพย์ในการสร้างพระเจดีย์
รวบรวมจากศรัทธาญาติโยมพุทธบริษัท ที่ต้องการร่วมสร้างพระเจดีย์ ถวายเป็นพุทธบูชาพระพุทธเจ้าทั้ง ๗ พระองค์
ผู้ที่ต้องการร่วมสร้างพระเจดีย์ สามารถบริจาคโดยตรงได้ที่ พระวิชัย กัมมสุทโธ สถานปฏิบัติธรรมป่าวิเวกสิกขาราม อ.พล จ.ขอนแก่น
หรือโอนปัจจัยไปที่
บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเมืองพล ประเภทออมทรัพย์
เลขที่ 792-221538-5
ชื่อบัญชี พระวิชัย กัมมสุทโธ ศิริผลหลาย (เจดีย์พระพุทธเจ้า ๗ พระองค์)